โรคติดการพนัน ชื่อภาษาอังกฤษว่า Pathological Gambling หรือ Gambling Disorder เป็นหนึ่งในความผิดปกติของกลุ่มอาการขาดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำ (Impulse Control Disorders) โดยกลไกการเสพติดพนันไปมีผลกระตุ้นสมองส่วนระบบการให้รางวัล (Brain’s reward system) เช่นเดียวกับยาหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุการณ์ติดโดยผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมความต้องการเล่นการพนันของตนเองได้ โกรธเคืองง่ายเมื่อต้องลดหรือหยุดเล่นการพนัน เล่นการพนันจนส่งผลกระทบต่อการเรียนหรือการทำงาน
อาการแสดงของการติดการพนันตามเกณฑ์การวินิจฉัยของ American Psychiatric Association มีดังนี้ (โดยได้จัดลำดับเป็นคำย่อ WAGER OFTEN เพื่อให้สะดวกในการจดจำได้ง่ายๆ)
1. Withdrawal – รู้สึกกระสับกระส่ายหรือหงุดหงิดง่ายเวลาพยายามหยุดหรือลดการเล่นพนัน
2. Affect significant relationship – ความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญ โอกาสในด้านการงาน การเรียน หรืออาชีพเสียไปเพราะการพนัน
3.Goal is to get even by chasing – หลังจากเสียเงินพนันแล้ว ได้พยายามที่จะกลับไปเล่นเพื่อเอาเงินคืนบ่อยครั้ง
4.Escape – เล่นการพนันเพื่อหาทางออกจากปัญหา หรือให้มีความรู้สึกที่ดีขึ้นจากความรู้สึกไม่สบายใจ
5.Rescue–ต้องให้บุคคลอื่นหาเงินมาช่วยให้พ้นจากการเป็นหนี้พนัน
6.Outside the laws – ทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมแปลงเอกสาร ขโมยของ เพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้พนัน
7. Failure to control – พยายามที่จะควบคุม ลด หรือ หยุดการเล่นพนันแต่ทำไม่สำเร็จบ่อยครั้ง
8.Tolerance – พนันด้วยการเพิ่มปริมาณเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้คงความรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดิมไว้
9.Evades telling the truth – โกหกครอบครัว แพทย์ผู้รักษา หรือ บุคคลอื่นเพื่อปกปิดการเล่นพนันของตนเอง
10.Needs to think about gambling – ครุ่นคิดถึงแต่การพนันอย่างมาก ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นพนันในอดีตของตนเอง ว่าเล่นได้หรือเสียอย่างไร รวมไปถึงการวางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอย่างไรให้ชนะในคราวต่อไป หรือ คิดวิธีหาเงินเพื่อจะนำไปใช้ในการพนันครั้งต่อไป
หากมีอาการข้างต้น 5 ข้อหรือมากกว่า แสดงว่าติดการพนัน แต่หากมี 3 หรือ 4 อาการ จัดว่าเป็นผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการพนัน และ หากมีเพียง 1 หรือ 2 ข้อ จะจัดเป็นผู้เล่นพนันที่มีความเสี่ยง (at-risk gambler)
การรักษาโรคติดการพนัน
ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ป่วยเพื่อให้รับรู้สาเหตุที่ตนเองต้องเข้ารับการรักษา พร้อมกับใช้หลายวิธีบำบัดโรคติดการพนัน เช่น การบำบัด
เป็นการปรับความคิดและพฤติกรรม มีแนวทางให้ผู้ป่วยได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของตนเองและสอนให้ผู้ป่วยมีทักษะในการลดแรงกระตุ้นที่ทำให้เล่น สภาพแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญ ครอบครัวสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดผู้ป่วยได้ด้วยการทำครอบครัวบำบัด และการทำกิจกรรมกลุ่มบำบัดอาจเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการรักษา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดคุยกับผู้ป่วยคนอื่น ๆ ผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการใช้ยาตามอาการ
การใช้ยา
แพทย์อาจใช้ยาต้านเศร้า (Antidepressants) ยาควบคุมอารมณ์ (Mood Stabilizers) ยาต้านกลุ่มโอปิออยด์ (Opioids Antagonist) หรือยาแก้ปวดชนิดเสพติดในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นควบคู่กับการติดการพนัน อย่างภาวะซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) หรือโรคสมาธิสั้น (ADHD) ซึ่งยาบางชนิดอาจมีประสิทธิภาพช่วยลดการติดการพนันได้