Work Life Balance นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับพนักงานและองค์กร เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้ชีวิตสมดุล มีความสุขประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน การดูแลครอบครัว สุขภาพร่างกายที่ดี และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น เพราะมีพนักงานที่มีคุณภาพช่วยสร้างศักยภาพให้กับองค์กรได้ในระยะยาวได้อีกด้วย
1.หาจุดกึ่งกลางหรือความพอดีให้ได้
การมี Work-Life Balance ที่ดีนั่นไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน และไม่จำเป็นที่ทั้งสองด้านจะต้องเท่ากันเสมอไป ความสมดุลเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ทุกคนสามารถหาจุดที่พอดีของตัวเองได้ ขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญในการใช้ชีวิตของตนเอง โดยยึดหลักความสุขและไม่ทำให้ตัวเองเกิดความทุกข์ทั้งในด้านของร่างกายและจิตใจ
2.กำหนดขอบเขตของตนเองให้ชัดเจน
แบ่งเส้นการใช้ชีวิตของตัวเองให้ชัดเจนทั้งในเรื่องงานและส่วนตัว เวลาทำงานก็เต็มที่กับงาน พอเวลาเลิกงานก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คนรอบข้าง ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ออกไปพบปะเพื่อนๆ ได้ใช้เวลาที่ไม่ต้องมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง จะช่วยให้การใช้ชีวิตมีความสมดุลและมีขอบเขตในการทำสิ่งต่างๆ
3.ขอความช่วยเหลือให้เป็นและพูดปฏิเสธให้ได้
การบอกปฏิเสธในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธคำขอร้องทุกอย่างตลอดเวลา แต่เป็นการปฏิเสธสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ หรือทำให้ตนเองได้รับความทุกข์ความไม่สบายใจ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน เช่น การปฏิเสธเรื่องงานที่นอกเหนือความรับผิดชอบมากเกินไป หรือปฏิเสธเมื่อมีคนมาชวนไปงานปาร์ตี้ที่ไม่ได้อยากไป ควรพูดด้วยหลักของเหตุผลและความรู้สึกแต่ไม่แสดงความก้าวร้าวออกไป รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากคนอื่นในเรื่องไม่สามารถทำได้ ช่วยให้สามารถลดความกดดันลงได้
ควรใส่ใจและตระหนักถึงการให้เวลากับตัวเองในการทำอะไรบางอย่างที่ชอบและผ่อนคลาย มีความสุข เช่น การออกไปทานอาหารนอกบ้านอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา หรือทำอะไรก็ได้ที่สร้างพลังบวกให้ตนเองโดยที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น เพียงเท่านี้ก็สร้างความสมดุลในชีวิตและการทำงานได้แล้ว